วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยว

ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอ เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่นี่นอกจะเป็นทุ่งดอกกระเจียวถือเป็นไฮไลต์ที่เด่นที่สุดของการมาท่อง เที่ยวที่นี่การมาเที่ยวชมที่นี่ นักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสกับทุ่งบัวสวรรค์หรือดอกกระเจียว ราชินีแห่งมวลไม้ดอกของขุนเขาป่าหินงาม ออกดอกสีชมพูอมม่วง ที่จะ ทยอยผลิบานเป็นระยะเวลา 2 เดือน ที่ออกปีละครั้ง ชูช่อล้อสายลมและสายหมอก ขึ้นเต็มทั่วผืนป่า
ทุ่งดอกกระเจียว ถือเป็นไฮไลต์ท่องเที่ยวช่วงฤดู ฝนแห้งแล้งจะกลับคืนสู่ความเขียวขจีและแต่งแต้มด้วยความ สดใส ของกระเจียวที่ผิดอกสีชมพูเต็มทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยความงดงามตระการตาของดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มไป ทั่วผืนป่า ตัดกับพื้นสีเขียวขจีของหญ้าเพ็ก และโขดหินธรรมชาติ อีกทั้งรูปลักษณ์สวยงาม วิจิตรพิสดารทำให้เป็น ทุ่งดอกกระเจียวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุด และงดงามที่สุดในประเทศไทย
ดอกกระเจียวจะพากันบานอยู่
การเดินทางมาชมทุ่งดอกกระเจียวที่ สวยงามที่สุด คือ ในช่วงเช้าที่มีสายหมอกบางๆ ปกคลุม แต่ถ้าหากมาในช่วง บ่ายที่ฝนเพิ่งตกใหม่ๆ ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้การเที่ยวชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทุ่งดอกกระเจียว แล้ว ยังสามารถชมแหล่งท่องเที่ยวบริเวณข้างเคียงได้อีกด้วย เช่น ป่าหินงาม ซึ่งจะมีก้อนหินรูป ลักษณ์แปลกตา นรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ดเขาประตูชุมพล น้ำตกเทพประทาน
ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม
1.ลานหินงาม
เป็นที่มาของชื่อ ป่าหินงามมีสภาพเป็นลานหินกว้างครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยแนวป่าเต็งรัง บริเวณ ลานหินเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา เช่น รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วย รางวัล ฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ด;ฯลฯ ซึ่งกิดจากการกัดเซาะของลมและน้ำมานานนับล้านปี
2.สุดแผ่นดิน
อยู่ห่างจากทุ่งดอกกระเจียวประมาณ 300 เมตร เป็นจุดสูงสุดของ อช. ป่าหินงาม และเป็นหน้าผาสูงสุดชายขอบ ด้านตะวันตกของที่ราบสูงโคราช มีความสูง 846 ม.ทางซ้ายมือเป็นที่ราบในเขต จ.พบุรี เบื้องหน้าเป็นทิวเขาและ ผืนป่า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาและทางขวามือเป็นพื้นที่ของ จ. เพชรบูรณ์ สิ่งที่ดูพิเศษสุดของจุดชมวิว แห่งนี้ี้คือ ลักษณะของผาหินที่ยื่นออกไปในอากาศคล้ายกับจุดชมวิวผาหำหด แต่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อขึ้น ไปยืน บนหน้าผาจะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้กว้างไกล
3.ชมทะเลหมอกสุดแผ่นดิน(ช่วงปลายฝนต้นหนาว)
จุดชมทิวทัศน์สุดแผ่นดินงดงามที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะมีสายหมอกปกคลุมผืนป่าเบื้องล่างเป็นบริเวณ กว้าง ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง
ทุ่งดอกกระเจียวไทรทอ ทุ่งดอกกระเจียวไทรทอ
ทุ่งดอกกระเจียวไทรทอ ทุ่งดอกกระเจียวไทรทอ
มีบ้านพักของอุทยานไว้บริการนักท่องเที่ยว และร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวมีพื้นที่กางเต็นท์ พร้อมห้อง อาบน้ำ ห้องสุขารวม ไว้ให้บริการ และยังมีบริการลานกางเต้นท์ในกรณีที่นำเต็นท์มากางเอง หรือติดต่อขอใช้ บริการ เต็นท์ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีค่าบริการอยู่หลายอัตราขึ้นอยู่กับชนิด ขนาดของเต็นท์ และอุปกรณ์ ประกอบ อื่นๆรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักเต็นท์ขอให้ติดต่อสอบถามกับอุทยานแห่งชาติ โดยตรง
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตู้ ปณ.2 ปทจ.เทพสถิตย์ อ. เทพสถิตย์ จ. ชัยภูมิ36230
โทรศัพท์ : 0 4489 0105ทรสาร : 0 4489 0105
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรีไปยังสามแยกพุแค แล้วเลี้ยวขวา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ไปยังบ้านลำนารายณ์ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 เส้นทางลำนารายณ์-ลำสนธิ-เทพสถิต-หนองบัวโคก-นครราชสีมาเดินทางจากบ้านลำ นารายณ์ประมาณ 48 กิโลเมตร ก่อนถึงที่ทำการอำเภอเทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปอำเภอหนองบัวระเหว ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านไร่ ใช้ระยะทางอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยาน จะมีป้ายบอกตลอดทาง
- จากจังหวัดนครราชสีมา ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 ผ่านอำเภอโนนไทย บ้านหนองบัวโคก บ้านคำปิง เมื่อเลยอำเภอเทพสถิตมาประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ก็จะถึง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร
2. โดยรถโดยสารประจำทาง

- เริ่มต้นจากจังหวัดนครราชสีมา (สถานีขนส่งแห่งที่ 2 นครราชสีมา)
1.สายนครราชสีมา - เพชรบูรณ์ (ลงปลายทางที่ท่ารถวะตะแบก)
2.สายนครราชสีมา – หล่มสัก
3.สายนครราชสีมา – ลำนารายณ์ (ลงปลายทางที่ท่ารถวะตะแบก) (เป็นรถของบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด
เที่ยวแรก 05.30 น. เที่ยวสุดท้าย 16.30 น.) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางถึงอุทยาน แห่งชาติ ป่าหินงาม ใช้เวลาอีก 30 นาที

- จากจังหวัดชัยภูมิ (สถานีขนส่งชัยภูมิ)
1.สายชัยภูมิ – ลำนารายณ์ (ลงปลายทางที่ท่ารถวะตะแบกแล้วขึ้นรถโดยสาร /ประจำทางต่อไปยังอุทยานฯ ประจำทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อีกประมาณ 30 นาที)เป็นรถของ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เที่ยวแรก 06.15น. เที่ยวสุดท้าย 15.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
2.สายชัยภูมิ - สถิต (ลงปลายทางที่สามแยกบ้านไร่) แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
อีก 18 กิโลเมตร (เที่ยวแรก 07.00 น. เที่ยวสุดท้าย 16.00 น.) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
3.สายชัยภูมิ - กรุงเทพฯ (ลงปลายทางที่สามแยกบ้านไร่) แล้วขึ้นรถโดยสาร ประจำทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติ
ป่าหินงาม อีก 18 กิโลเมตร เป็นรถปรับอากาศ (เที่ยวแรก 07.00 น. เที่ยวสุดท้าย 16.00 น.) ใช้เวลาเดินทางประมาณ2 ชั่วโมง

-จากบ้านลำนารายณ์อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี (สถานีขนส่งลำนารายณ์)
1.สายลำนารายณ์ – นครราชสีมา (ลงปลายทางที่ท่ารถวะตะแบกแล้วขึ้น รถโดยสารประจำทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม) เป็นรถของ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เที่ยวแรก 05.30 น. เที่ยวสุดท้าย 17.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
2.สายลำนารายณ์ - ชัยภูมิ (ลงปลายทางที่ท่ารถวะตะแบกแล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติิป่าหินงาม) เป็นรถของบริษัทนครชัยแอร์ จำกัด เที่ยวแรก 05.30 น. เที่ยวสุดท้าย 17.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

- จากกรุงเทพมหานคร (สถานีขนส่งหมอชิต 2)
1.สายกรุงเทพฯ - ชัยภูมิ หมายเลข 9909 ผ่านอำเภอเทพสถิต (ลงปลายทาง ที่สามแยกบ้านไร่) แล้วขึ้นรถ โดยสารประจำทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติป่าหินงามอีก 18 กิโลเมตร เป็นรถของบริษัทแอร์ชัยภูมิ จำกัด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง เป็นรถปรับอากาศ เที่ยวแรก 10.00 น. บริษัทแอร์ชัยภูมิ&
โทรศัพท0-4481-1556
2. สายกรุงเทพฯ - ชัยภูมิ หมายเลข 28 (ลงปลายทางที่หนองบัวโคก) แล้วขึ้นรถโดยสารประจำทางต่อไปยัง อำเภอเทพสถิต (ท่ารถวะตะแบก) อีก 54 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง รถออกทุกชั่วโมง มีบริการเดินรถ สายกรุงเทพฯ- เทพสถิต - ชัยภูมิ
3.รถไฟ
 ติดต่อขอ รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง กทม. ผ่านเขื่อน ป่าสักชลสิทธิิ์ถึงสถานี รถไฟวะตะแบก (เทพสถิต) จากนั้นเดินทางต่อโดยรถโดยสาร ระยะทาง ประมาณ35 กิโลเมตร เพื่อไปสู่อุทยานป่าหินงามการรถไฟแห่งประเทศ ไทย   โทรศัพท์  1609,  0-2223-7010,  0-2223-7020

สถานที่ท่องเที่ยว

มอหินขาวเป็น อีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่ามีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอก กระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิเดิมพื้นที่ แถวนี้ เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่ มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) แต่จากเสียงบอกเล่า มีคนเคยเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่า มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาวส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง
มอหินขาวกลุ่มแรกเหมือนหน้าคนมาก มหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
มอหินขาว มอหินขาว
มอหินขาวมี กลุ่มหินอยู่หลายแห่งด้วยกัน เมื่อเรามาถึงมอหินขาว  ก็จะถึง กลุ่มหินชุดแรก คือ “เสาหิน 5 ต้น” เป็นหินที่มีความสูงประมาณ 12 เมตร จำนวนหนึ่งใน 5 มีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาด 22 คนโอบ เสาหิน 5 ต้นนี้นับเป็น เสาหินที่เด่นที่สุด และเป็นไฮไลตืของการมาเที่ยวมอหินขาว
มอหินขาว มอหินขาว
มอหินขาวกลุ่มที่ 2 เหมือนเจดีย์ เหมือนกระดองเต่า
มอหินขาว มอหินขาว
ถัดจากกลุ่มหินชุดแรกไปเล็กน้อยจะถึงบริเวณ ลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำบริการจากจุดนี้มีเส้นทางเดินไปยังกลุ่มหิน และจุดชมวิว ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ระยะทางเดินเท้า 650 เมตร ลานหินต้นไทร 900 เมตร สวนหินล้านปี 1,250 เมตร และจุดชมวิวผาหัวนาค 2,500 เมตรซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลุยพักนอนกลางเต็นท์ ชม ธรรมชาติกลางป่าเขายิ่งนัก แล้วก็มาถึง หินกลุ่มที่ 2 อยู่ห่าง จากลุ่มแรกประมาณ 500 เมตร เรียกรวมกัน ว่า "ดงหิน"มีแท่งหินรูปร่างแปลกประหลาดมากมาย มีรูปร่างคล้ายเจดีย์ กระดองเต่ารองเท้่าบูท และบริเวณหินกลุ่ม นี้เรายังสามารถขึ้นไปชมวิวที่กว้างไกลสุดสายตาของที่นี่ได้
ทุ่งดอกไม้ระหว่างทาง ดอกไม้ป่าที่ขึ้นแซมกับปฏิมากรรมหิน
มอหินขาว มอหินขาว
หินกลุ่มที่ 3 อยู่ห่างออกไปอีก 1,500 เมตร เป็นแท่งหินและเสาหินขนาดเล็กกระจายอยู่บนลานหินกว้างโดย ลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผา ที่มีชื่อว่า “ผาหัวนาค” หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้พบเห็น ประติมา้กรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้ว เป็นภาพที่สวยงามและน่าชมนัก  หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาที่นี่แล้วจะชวนคุณหลงใหลมิรู้ ลืม
จน”มอหินขาว” แห่งนี้เคย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของท่านมุ้ย เรื่องพระนเรศวรมหาราช มาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งความท้าทายของนักแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาดได้มาพิสูจน์กัน
ทุ่งดอกไม้ระหว่างทาง ดอกไม้ป่าที่ขึ้นแซมกับปฏิมากรรมหิน
มอหินขาว มอหินขาว
สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.025620760
ที่มอหินขาวไม่มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว จะมีแต่สถานที่กางเต้นท์ไว้คอยให้บริการ มีห้องน้ำไว้แต่ไม่สะดวก มากนัก นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาค้างแรมที่นี่ต้องเตรียมอาหารมาเอง
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวจังหวัดชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทาง ประมาณ18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน – ท่าหินโงม เป็นทาง ลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ-โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึง บ้านวังคำแคนจากนั้นเลี้ยวขวาช่วงบ้านวังคำแคน ซึ่งเป็นทางลูกรังที่ชาวบ้านที่นี่ใช้เป็นเส้นทางสำหรับ ขนพืชไร่ ไปต่ออีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร  ในช่วงฤดูฝนควรใช้รถยนต์ประเภทรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อความเหมาะสมกับเส้นทาง
2. โดยรถโดยสารประจำทาง

ที่มอหินขาวไม่มีรถสาธารณะผ่าน นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาที่นี่ต้องเหมารถจากตัวเมืองชัยภูมิ หรือหากไปเที่ยว

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยว

 น้ำตกตาดโตน 
 
น้ำตกตาดโตน ป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิไปทางทิศเหนือ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี โดย เฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ ด้านบนเป็นธารน้ำไหลผ่านลานหินสองฝั่งธารร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมาะที่ จะนั่งพักผ่อนชมธรรมชาติและเล่นน้ำ ด้านบนน้ำตกมีสภาพเป็นลานหินกว้างประมาณ 50 เมตร และยาวไปตาม ลำน้ำ ประมาณ 300 เมตร ทำให้น้ำไหลลาดมาตามลานหิน มีแอ่งน้ำที่สามารถเล่นน้ำได้เป็นจุดๆ และไหลลงมาตก ที่หน้าผาเป็นน้ำตกตาดโตนที่มีความสูงประมาณ 6 เมตร และกว้าง 50 เมตร ในฤดูฝน ( ประมาณเดือนมิถุนายน - กันยายน )
น้ำตกตาดโตน น้ำตกตาดโตน
บริเวณน้ำตกตาดโตนมี ศาลเจ้าพ่อตาดโตน (ศาลปู่ด้วง) มีประวัติว่า เจ้าพ่อตาดโตนเป็นคนเชื้อสายเขมรอพยพ
เข้าเมืองไทย ในเวลาใกล้เคียงกับพ่อพระยาแล (พระยาภักดีชุมพล) ท่านบำเพ็ญตนเป็นชีปะขาวยึดมั่นในสมถะ กรรมฐาน ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และช่วยรักษาคนไข้ เป็นที่นับถือเลื่อมใสของราษฎรมาก เมื่อถึงแก่กรรมจึง มีีการสร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพสักการะไว้หลายแห่ง นอกจากที่น้ำตกตาดโตนแล้วยังมีศาลปู่ด้วงที่ช่อง สาม หมอกและที่วัดชัยภูมิพิทักษ์อีกด้วย มักมีประเพณีรำผีฟ้า ผีทรงบวงสรวงเจ้าพ่อเป็นประจำ มีทางลาดยางตลอด ถึงน้ำตก
น้ำตกตาดโตน น้ำตกตาดโตน
ฤดูกาลท่องเที่ยว
- ฤดูฝน ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน น้ำตกตาดโตน จะมีน้ำไหลเต็มที่และสวยงาม
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
- คนละ 20 บาท
- รถยนต์ 30 บาท
น้ำตกตาดโตน น้ำตกตาดโตน
สิ่งอำนวยความสะดวก
มีบ้านพักและสถานที่กางเต้นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวในบริเวณน้ำตกจะมีร้าน คาราโอเกะและอาหาร ให้คนที่อยาก เปลี่ยนบรรยากาศ คนส่วนมากจะมาที่นี่กันในหน้าแล้งของทุกปีเพื่อคลายร้อนกัน จึงไม่แปลกที่จะเห็นทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่แม้กระทั่งวัยไม้ไกล้ผั่ง เพราะบรรยากาศร่มรื่นความ เย็นสบาย แถมมีร้านขาย ของ คอยบริการ
สถานที่ติดต่อ • อุทยานแห่งชาติตาดโตน ตู้ ปณ. อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000 โทรศัพท์ : (0) 1926 4870
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองทางหลวงหมายเลข 2159 และแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2051 ระยะทางจากตัวเมืองถึงที่ทำ การอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางหมายเลข 201 ทางไปอำเภอภูเขียว จะมีเส้น ทางแยกซ้ายอีก 21กิโลเมตรไปน้ำตกตาดโตนได้เช่นกัน
2. โดยรถโดยสารประจำทาง
สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสาร สามารถใช้บริการรถสองแถวสายชัยภูมิ-ท่าหินโงม ลงที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียม แล้วเดินเท้า อีก 1 กิโลเมตรถึงที่ตั้งอุทยานเดินเข้าน้ำตกcตาดโตนประมาณ 500 เมตร ตามถนนราดยาง หรือเดิน ลัดเลาะตามโขด